เมื่อวันที่ 6 พ.ย.63 ที่ผ่านมา ที่สำนักงานขายตลาดจตุจักร “คณะก้าวหน้าภูเก็ต” เปิดตัว นายสรธรรม จินดา และ นายปีติภาสน์ ภัทรปกรณ์ เป็นทีมบริหาร หากได้รับเลือกตั้ง
โดย นายสรธรรม จินดา กล่าวว่า ตนในฐานะที่เคยดำรงตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต มายาวนานถึง 3 สมัย มีโอกาสได้ทำงานในส่วนขององค์การบริหารส่วนจังหวัดมาอย่างยาวนาน รู้ว่าการขับเคลื่อนองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตซึ่งเป็นจังหวัดที่มีความพิเศษกว่าจังหวัดอื่นๆ ณ วันนี้ จะขับเคลื่อนย่างไร องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตเป็นองค์กรที่จะต้องทำงานครอบคลุมทั้งจังหวัด และจังหวัดภูเก็ตจะต้องไปไกลกว่าจังหวัดอื่นๆ ในเรื่องของการพัฒนาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจังหวัดภูเก็ตมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเปลี่ยนถ่ายจากคนรุ่นเก่าสู่คนรุ่นใหม่
วันนี้ต้องยอมรับว่าคนรุ่นเก่าต้องรับเอาวิธีคิดของคนรุ่นใหม่เข้ามา ตนจึงขอเป็นตัวเชื่อมในการนำประสบการณ์และข้อมูล รวมทั้งแนวทางในการพัฒนาจังหวัดภูเก็ตที่เคยมีการคิดวางแผนกันไว้แล้วมาเชื่อมต่อกับความคิดของคนรุ่นใหม่ ซึ่งจะทำให้ภูเก็ตเดินต่อไป โดยในส่วนของตนจะเข้าไปอยู่ในตำแหน่ง ว่าที่รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตในทีม “คณะก้าวหน้าภูเก็ต”
สำหรับแนวความคิดในการพัฒนาจังหวัดภูเก็ต จะเป็นการพัฒนาในแนวใหม่เพราะหัวหน้าทีมเป็นคนรุ่นใหม่โดยมีคนรุ่นเก่าช่วยผลักดันเพื่อให้ภูเก็ตได้มีโอกาสในการพัฒนาตามรูปแบบความเจริญของเมืองท่องเที่ยว ซึ่งสิ่งที่จะต้องทำทันทีอย่างน้อย 3 เรื่อง คือ เรื่องที่ 1 การสร้างงาน การจ้างงาน ซึ่งในช่วงโควิดที่ผ่านมาทราบกันดีอยู่แล้วว่าภูเก็ตได้รับผลกระทบอย่างมากคนตกงานจำนวนมากเพราะฉะนั้นเรื่องของการสร้างงานจะต้องทำทันที เรื่องที่ 2 คือ การนำระบบไอทีเข้ามาช่วยในการพัฒนาจังหวัด เช่น การขนส่งมวลชนเพื่อลดปัญหาการจราจรและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว
เรื่องที่ 3 คือเรื่องการพัฒนาการศึกษา ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมา อบจ.มีโรงเรียนในสังกัด 5 แห่ง ตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงมัธยมปลาย ซึ่งอยู่ในพื้นที่ครอบคลุมทั้งจังหวัด ซึ่งมองว่าจะต้องมีการพัฒนาระบบสารสนเทศมีการเรียนการสอนแบบอินเตอร์
ด้าน นายปีติภาสน์ ภัทรปกรณ์ หนึ่งในว่าที่ทีมบริหารคณะก้าวหน้าภูเก็ต กล่าวว่า ในการเข้ามาทำงานการเมืองครั้งนี้ ตนเป็นคนหนึ่งที่อยากเห็นภูเก็ตที่ตนเกิดและเติมโต มีการพัฒนาก้าวหน้าไปในทิศทางที่ดีขึ้นโดยตนเข้าร่วมทำงานการเมืองกับทางคณะก้าวหน้าภูเก็ตอยู่ในฝ่ายบริหาร ถ้าได้รับเลือกเข้ามา ซึ่งตนมองว่าเป็นโอกาสดีและเราก็มีความสามารถ มีศักยภาพ มีความคิดของคนรุ่นใหม่ที่จะสามารถนำมาสร้างประโยชน์ในการพัฒนาจังหวัดภูเก็ตได้
สำหรับสิ่งที่ภูเก็ตควรจะได้รับการแก้ไข ทันที คือเรื่องของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รายได้ที่เข้ามา 80 % เป็นรายได้จากการท่องเที่ยว ในช่วงโควิดที่ผ่านมาเราเห็นชัดแล้วว่าจะหวังรายได้จากการท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ เราจำเป็นที่จะต้องสร้างรายได้จากส่วนอื่นด้วย เช่น การท่องเที่ยวโดยชุมชนซึ่งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยไม่กระทบกับอาชีพดั่งเดิม ซึ่งคนในชุมชนยังคงมีรายได้จากวิถีชีวิตดั่งเดิม และมีรายได้เสริมจากการท่องเที่ยวเข้ามา ซึ่งอันนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของแนวความคิดในการพัฒนาจังหวัดภูเก็ตของคณะก้าวหน้าภูเก็ต โดยเร็วๆ นี้ จะมีการการเปิดเผยนโยบายทั้งหมดให้ประชาชนได้รับทราบ