จากกรณีนักท่องเที่ยวหญิงชาวออสเตรเลีย 2 คน เดินทางไปเเจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สภ.กะรน จ.ภูเก็ต หลังเรียกรถตู้จากสนามบินภูเก็ต ไปส่งที่โรงแรมเเห่งหนึ่งในพื้นที่ หาดกะตะ ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยระบุว่าโดนเรียกค่าโดยสารถึง 3,000 บาท
ล่าสุดวันที่ 18 ก.ค.62 ที่สถานีตำรวจภูธรกะรน จังหวัดภูเก็ต นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พันตำรวจเอกประวิทย์ สุทธิเรืองอรุณ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกะรน ได้เชิญทั้งนักท่องเที่ยวหญิงชาวออสเตรเลีย ผู้เสียหายทั้ง 2 คน พร้อม นายภูมิพัฒน์ จันทร์แก้ว พนักงานขับรถตู้คู่ และ นางนฤมล จำปาทอง ซึ่งเป็นคนติดต่อนักท่องเที่ยวขึ้นรถตู้โดยสารที่ท่าอากาศยานภูเก็ต รวมถึงเจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าทีตำรวจท่องเที่ยว มาให้การเพิ่มเติม
ภายหลังเสร็จสิ้นการพูดคุย นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นนักท่องเที่ยวทั้ง 2 คน เดินทางมาจากประเทศออสเตรเลีย มายังจังหวัดภูเก็ต เมื่อมาถึงสนามบินก็ต้องการหารถเพื่อเดินทางไปยังโรงแรมที่พักซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ หาดกะตะโดยได้ติดต่อเหมารถผ่านทาง นางนฤมล จำปาทอง ซึ่งได้เรียกรถของ นายภูมิพัฒน์ จันทร์แก้ว มารับผู้โดยสารทั้ง 2 ราย ส่วนเรื่องของราคาจากการพูดคุยเบื้องต้นทั้ง 2 ฝ่ายยังให้ข้อมูลไม่ตรงกัน โดยนักท่องเที่ยวยืนยันว่า 3,000 บาท ในขณะที่ฝ่ายรถตู้ยืนยันว่าตกลงราคากันที่ 2,000 บาท อย่างไรก็ตามกรณีของ นางนฤมล จำปาทอง ในฐานะผู้ติดต่อจัดหารถตู้มีความผิดตาม พ.ร.บ.การท่าฯ ฐานเข้าไปในท่าอากาศยานโดยไม่ได้รับอนุญาต ท่าอากาศยานภูเก็ตได้เรียกปรับในอัตราโทษปรับสูงสุดจำนวน 2,000 บาท แล้ว
นายสุพจน์ฯ ยังกล่าวอีกว่า ในกรณีนี้นายกรัฐมนตรีได้มีการกำชับในเรื่องของการให้ความเป็นธรรม โดยเฉพาะกับนักท่องเที่ยว เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดแห่งการท่องเที่ยว ซึ่งท่านนายยกรัฐมนตรีได้มีบัญชาให้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง และอย่าให้เกิดกรณีแบบนี้ขึ้นอีก แต่ทั้งนี้ยืนยันที่จะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอน
ด้าน คนขับรถตู้ เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 16 ก.ค.62 ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวหญิงชาวออสเตรเลีย 2 คน ได้เหมารถตู้โดยสารจากสนามบินภูเก็ต ให้มาส่งที่โรงเเรมเเห่งหนึ่งเเถวหาดกะตะ ซึ่งเหตุการณ์เป็นไปตามปกติ แต่หลังจากนั้นเกิดเป็นข่าวครึกโครมในโซเชียลมีเดีย เมื่อทราบเรื่องตนจึงรีบเดินทางมายัง สภ.กะรน เพื่อให้การถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ว่าจริงๆ เเล้วค่าโดยสารตกลงกันเพียง 2,000 บาท เป็นราคาเหมาจ่าย ซึ่งนักท่องเที่ยวก็ยินดีที่จะจ่ายเพราะไม่ต้องการรอผู้โดยสารคนอื่น ยืนยันว่าไม่มีการเรียกเก็บ ในราคา 3,000 บาท แต่อย่างใด เนื่องจากมีการตกลงราคากันตั้งแต่ต้นในจำนวน 2,000 บาท
อย่างไรก็ตามภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะรน ได้พูดคุยกับ นักท่องเที่ยว และ ทางฝ่ายรถตู้อีกครั้งในเรื่องของราคา ก็ได้ข้อสรุปว่ามีการตกลงราคาแบบเหมาจ่ายจากสนามบินมาในราคา 2,000 บาท ส่วนกรณีที่นักท่องเที่ยวมาแจ้งความนั้นเป็นเรื่องของการเข้าใจผิดกัน ตอนนี้ทางตำรวจได้นำตัวคนขับรถตู้ไปปรับที่สนามบินภูเก็ตเนื่องจากทำผิดกฎของท่าอากาศยานภูเก็ตเข้าไปรับนักท่องเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาต