วีโว่ปักหมุดเลือกจังหวัดภูเก็ตเป็นฐานกระจายสินค้า จัดงาน “Vivo Expo 2019” หวังขอแบ่ง Market Share เติม จากปี 2018 ให้เต็ม 20% ชูจุดขายที่ราคาสามารถจับต้องได้ เน้นฟังก์ชั่นการใช้งานเป็นหลัก พร้อมกับรูปลักษณ์ที่โดดเด่นตรงใจกลุ่มผู้ใช้ เปิดตัว 2 รุ่นสุดเจ๋ง V15 และ V15pro
บริษัท ซี.ที.อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด ผู้แทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือแบรนด์ VIVO ภาคใต้ตอนบน รับผิดชอบพื้นที่ขาย 7 จังหวัด ประกอบด้วย ภูเก็ต พังงา กระบี่ สุราษฎร์ธานี ชุมพร ระนอง และนครศรีธรรมราช ได้จัดงาน “Vivo Expo 2019” เพื่อขอบคุณลูกค้าที่ให้การสนับสนุนด้วยดีเสมอมา ตั้งแต่เปิดตัวในปี 2557 จนถึงปัจจุบันนี้ และเพื่อเป็นการสร้างการรู้จักโทรศัพท์มือถือ VIVO มากยิ่งขึ้น โดยเลือกจังหวัดภูเก็ตเป็นสถานที่จัดงานหลัก โดยมองว่าจังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ทั้งเอเชียและยุโรป เชื่อมั่นว่าจะสามารถกระจายสินค้าและสร้างการรู้จักได้มากกว่าที่จะเลือกจัดงานที่อื่นๆ ซึ่งงาน “Vivo Expo 2019” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 – 30 มีนาคม 2562 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลภูเก็ต เฟสติวัล ภายในงานยังได้มีการเปิดตัวโทรศัพท์มือถือ VIVO V15 และ VIVO V15pro รุ่นใหม่ล่าสุด ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณสมบัติมากมาย ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องฟังก์ชั่นที่มากกว่าการโทรศัพท์ โดยเฉพาะในกลุ่มของลูกค้าที่นิยมการเซลฟี่ ที่ดีไซน์ครั้งแรกของสมาร์ทโฟนกล้องหน้าป๊อปอัพชัดที่สุด 32 ล้านพิกเซล และกล้องหลัง 3 กล้องมาด้วยความคมชัดมากถึง 48 ล้านพิกเซล และเลนส์ wide พร้อมมอบสิทธิพิเศษ และของรางวัลอีกมากมาย
โดย Mr.Yuting Zhang (CEO) และ Mr.zhenyi Zhang (MD) 2 ผู้บริหารของบริษัท ซี.ที.อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด ได้เผยต่อผู้สื่อข่าวเพิ่มเติมว่า การจัดกิจกรรม “Vivo Expo 2019” ถือเป็นการจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในภาคใต้ เพื่อให้ลูกค้าทางภาคใต้ได้รู้จักโทรศัพท์มือถือมากยิ่งขึ้น เพราะแบรนด์ VIVO ยังถือว่าเป็นแบรนด์ใหม่ที่เปิดตัวมาได้เพียงแค่ 5 ปีเท่านั้น แต่จริงๆแล้วเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมมากในประเทศจีน เพราะเปิดตัวมาร่วม 10 ปีแล้ว เราเปิดตัวโทรศัพท์มือถือมาเพื่อตอบรับความต้องการของวัยเริ่มต้นทำงาน วัยรุ่นที่มีกำลังซื้อไม่มาก เปิดตัวราคาที่สามารถจับต้องได้ คือไม่เกิน 10,000 บาทในรุ่นที่พร้อมใช้งาน โดยมีรุ่นที่มีฟังก์ชั่นมากขึ้นก็จะกำหนดราคาไว้ที่ 10,000-15,000 บาทไม่เกินนี้ เพราะจากการที่ทางบริษัทฯได้สำรวจตลาดมาก่อนหน้านี้พบว่า ปริมาณความต้องการใช้สมาร์ทโฟนนั้น จะอยู่ที่ราคาระหว่าง 5,000 – 8,000 บาท โดยมีฟังก์ชั่นให้เลือกใช้ได้ตามความต้องการของผู้ใช้ เน้นการซื้อแล้วสามารถนำไปใช้งานได้เลย ไม่ได้เน้นในเรื่องของราคาที่ค้อนข้างสูง หรือสเปคที่มีความซับซ้อนมากนัก ตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกจนถึงขณะนี้ มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ประมาณ 18% ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ คาดว่าหลังจากที่ได้ทำการตลาดอย่างเต็มที่แล้ว ในปี 2019 ไตรมาสแรก เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ 2 รุ่นคือ V15 และ V15pro และในเดือนกรกฎาคมจะได้เปิดตัวอีก 2 รุ่น ก็น่าเชื่อว่าจะสามารถ่วงชิง Market Share ขยับขึ้นเป็น 20% อย่างแน่นอน