เมื่อวันที่ 29 ก.ค.62 เวลาประมาณ 07.20 น. พ.ต.ท.หญิงนุชรี ล่องแก้ว สารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ตได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตในรถตู้ เหตุเกิดภายในลานจอดรถของ ห้องพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.3 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สายตรวจ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพ รพ.มิชชั่น และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต เข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุตามที่รับแจ้ง เบื้องต้นพบรถตู้สีขาว ทะเบียน ฮว 3971 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในลานจอด ภายในห้องโดยสาร พบศพผู้เสียชีวิต ทราบชื่อภายหลังคือนาย อนุสนธ์ เม่นตะเภา อายุ 54 ปี ชาว อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา สภาพนอนหงายห้อยขาอยู่บนเก้าอี้ผู้โดยสาร ไม่สวมเสื้อผ้า สวมเพียงกางเกงในสีขาวตัวเดียว ข้างๆ ร่างผู้เสียชีวิต พบ เสื้อผ้า ยารักษาโรคประจำตัว ขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และโทรศัพท์มือถือ ชันสูตรเบื้องต้น ไม่พบบาดแผลตามร่างกาย คาดว่าเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่จึงเก็บหลักฐาน ก่อนให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตไปชันสูตรที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต
จากการสอบถาม นายทศพร จันทรัตน์ อายุ 31 ปี คนขับรถตู้และเป็นเพื่อนร่วมงาน เล่าว่า ตนเองนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายยานยนต์ ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) ส่วน นายอนุสนธ์ฯ ผู้เสียชีวิต เป็นเจ้าหน้าที่ช่างระดับ 7 ได้เดินทางมาจังหวัดภูเก็ตเมื่อวันที่ 27 ก.ค.62 ที่ผ่านมา เพื่อทำการติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าให้กับ สถานีไฟฟ้าแรงสูงที่ 1 ถ.เทพกระษัตรี ต.รัษฏา อ.เมืองภูเก็ต โดยก่อนเกิดเหตุในช่วงบ่ายของวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังทำงานเสร็จ ได้กลับเข้าพักที่ห้องพักดังกล่าวตามปกติ โดยผู้เสียชีวิตนั้นขอดื่มเหล้าต่อภายในรถตู้ ตนเองจึงเปิดกระจกรถไว้หลายบาน เพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก ก่อนเข้าห้องพัก กระทั่งเวลาประมาณ 16.00 น.ได้เดินลงมาจากห้องพักเพื่อไปร้านสะดวกซื้อจึงแวะมาดู เห็นผู้เสียชีวิตนอนหลับอยู่ตามปกติ ตนเองได้สะกิดที่ขา ผู้เสียชีวิตได้ส่งเสียงตอบ 1 ครั้ง ตนเองจึงคิดว่าไม่อยากรบกวนจึงเดินไปซื้อของก่อนกลับขึ้นห้องพัก คิดว่าเดี๋ยวคงกลับขึ้นมา หลังจากนั้นตนเองก็หลับไป กระทั่งตื่นมาตอนเช้าไม่พบผู้เสียชีวิต คิดว่าคงจะหลับอยู่ในรถ จึงรีบอาบน้ำแต่งตัวและลงมาดูที่รถ เมื่อเปิดประตูรถก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว จึงรีบวิ่งไปขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ห้องพนักเพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ
ทั้งนี้ตนเองกับผู้เสียชีวิตเพิ่งร่วมงานกันครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 ก.ค.62 ที่ผ่านมา โดยเดินทางไปปฏิบัติงานด้วยกันที่ จ.บุรีรัมย์ ก่อนลงมาที่จังหวัดภูเก็ต โดยมีกำหนดอยู่ภูเก็ตจนถึงวันที่ 9 ส.ค.62 ก่อนเดินทางไปจังหวัดมุกดาหารต่อ ซึ่งผู้เสียชีวิตนั้นเป็นคนนิสัยดี ทำงานเก่ง แต่ชอบดื่มสุราเป็นประจำ ซึ่งตนเองไม่ทราบว่ามีโรคประจำตัวหรือไม่ จึงไม่ได้ห้ามปรามหรือดูแลอย่างใกล้ชิดจนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
โดยเจ้าหน้าที่คาดว่า ผู้เสียชีวิตน่าจะเกิดดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปจำนวนมากทำให้ร้อนจึงถอดเสื้อผ้านอน ก่อนจะเสียชีวิต และส่วนหนึ่งเชื่อว่าน่าจะเกิดจากโรคประจำตัวซึ่งต้องรอการชันสูตรยืนยันจากแพทย์อีกครั้ง