[post-views] view
เมื่อวันที่ 27 ม.ค.62 เวลา 08.53 น. เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครภูเก็ต ได้รับแจ้งว่า มีเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น เลขที่ 47 อยู่ภายใน บขส.เก่า ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต หลังจากรับแจ้ง นายพงศักดิ์ ศิริทัพ หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครภูเก็ต จึงรายงานให้ ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย นายประกอบ วงศ์มณีรุ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต พ.ต.ต.มนัส วงษ์แก้ว สวป.สภ.เมืองภูเก็ต ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมนำรถดับเพลิงเทศบาลนครภูเก็ตประมาณ 8 คัน รถดับเพลิงเทศบาลตำบลรัษฎา จำนวน 2 คัน และรถดับเพลิงทัพเรือภาคที่ 3 จำนวน 1 คัน ให้การสนับสนุนช่วยการดับเพลิงในครั้งนี้
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้นปลูกติดกัน 4 คูหา เห็นมีควันพวยพุ่งและไฟกำลังลุกไหม้อย่างรวดเร็วมาจากบ้านเลขที่ 47 ซึ่งเป็นอาคารรับทำเฟอร์นิเจอร์ โดยคนงานที่พักอยู่ด้านในได้วิ่งหนีมาจากภายในบ้าน จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ฉีดน้ำเข้าไปภายในอาคารเพื่อป้องกันไม่ให้ไฟลุกลามไปติดบ้างข้างเคียง แต่การฉีดน้ำเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากภายในอาคารมีเชื้อเพลิงที่ติดไฟเป็นอย่างดี ทั้งทินเทอร์ สี ไม้ รวมทั้งลมแรงพัดเข้าไปในตัวอาคารทำให้ไฟลุกลามไปติดที่ชั้น 2 และชั้น 3 ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงได้ใช้รถบันไดฉีดน้ำจากภายนอกเข้าไป และเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งได้ไปฉีดน้ำด้านหลังอาคาร นอกจากนั้นไฟยังลุกลามไปติดถังเก็บน้ำของบ้านเลขที่ 51 ได้รับความเสียหายเช่นกัน ทางเจ้าหน้าที่ฯจึงได้ระดมฉีดน้ำเข้าไปภายในอาคารอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิง แต่เจ้าหน้าที่ยังฉีดน้ำล่อเลี้ยงอยู่เกรงว่าไฟจะลุกติดขึ้นมาอีกครั้ง จากการตรวจสอบในเบื้องต้น บ้านเลขที่ 47 ถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหายทั้ง 3 ชั้น ยังมีการอาคารใกล้เคียงที่ถูกไฟไหม้เฉพาะชั้น 2 และชั้น 3 ได้รับความเสียหายวอดเช่นเดียวกัน ส่วนมูลค่าความเสียหายยังประเมินไม่ได้
จากการสอบถาม นายวิชัย ทองดี อายุ 35 ปี ชาวจังหวัดเชียงใหม่ คนงานที่อยู่บ้านเลขที่ 47 กล่าวว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นที่พักและใช้สำหรับรับทำเฟอร์นิเจอร์ไปติดตั้งที่โรงแรมในพื้นที่ ต.กะรน ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนกำลังนอนพักผ่อนอยู่บ้านชั้น 2 พร้อมลูกน้องอีก 2 คน ขณะนั้นได้มีคนตะโกนมาว่า ไฟไหม้จึงได้รีบตื่นขึ้นเห็นไฟกำลังลุกลามขึ้นมาติดที่ชั้น 2 แล้ว ตนและลูกน้องได้วิ่งหนีตายออกมาโดยไม่หยิบทรัพย์สินอะไรออกมาเลย จากนั้นได้นำน้ำบ้านข้างเคียงมาช่วยกันดับ แต่ไม่สมารถดับได้จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาช่วยดับ
และจากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์บ้านข้างเคียง กล่าวว่า ขณะที่นอนพักผ่อนอยู่ที่ชั้นล่างพร้อมลูกสาวและได้กลิ่นเหม็นไหม้มาจากด้านล่างจึงได้เดินไปที่หลังบ้านเห็นไฟกำลังรุกไหม้กองไหม้ที่อยู่หลังบ้านเลขที่47 และเห็นไฟลุกลามไปติดชั้น 2 ตนจึงได้รับปลุกลูกแล้วพาลูกวิ่งหนีออกนอกบ้านอย่างรวดเร็ว และได้ตะโกนว่า ไฟไหม้ระหว่างนั้นเห็นคนงานที่พักอยู่บ้านหลังดังกล่าววิ่งออกมาได้
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานภูเก็ตจะลงพื้นที่ เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
